ยินดีต้อนรับเข้าสู่องค์การบริหารส่วนตำบลชุมแพ ติดต่อสอบถาม โทรศัพท์ 043-471466 โทรสาร 043-471466 // วิสัยทัศน์ :ตำบลชุมแพเป็นเมืองน่าอยู่ ก้าวสู่เทคโนโลยี ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่างยั่งยืน 









หนังสือสั่งการ สถ.

ข่าวสารจาก สถ.จ.

ข่าวสารในเครือข่าย

คู่มือประชาชน

facebook

สำรวจความคิดเห็น

ระบบบันทึกสถิติการเกิดอุบัติเหตุ

ข่าวสารอาเซียน

ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น

ตรวจเช็คอีเมล

ระบบจัดการบริหารเว็บไซต์





สถิติการเข้าชม เริ่มวันที่ 22/02/2562
วันนี้
28
เมื่อวานนี้
98
เดือนนี้
2,661
เดือนที่แล้ว
2,215
ปีนี้
21,487
ปีที่แล้ว
22,763
ทั้งหมด
72,548
ไอพี ของคุณ
35.175.191.46


1
โครงการชลประทานน้ำเชิญ,องค์การบริหารส่วนตำบลชุมแพ,chumphae.go.th

ประวัติความเป็นมา

โครงการชลประทานน้ำเชิญ จ.ขอนแก่น เป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2520 เนื่องจากราษฎร ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ ได้ทูลทวายหนังสือเพื่อกราบบังคมทูลขอพระราชทานสร้างเขื่อนทดน้ำถาวรแทนฝายเดิมพร้อมก่อสร้างคลองชลประทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาช่วยเหลือเป็นการด่วน กรมชลประทานจึงได้พิจารณาวางโครงการเป็นเขื่อนทดน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กขึ้น เมื่อวางโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้กราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปทอดพระเนตรบริเวณที่จะสร้างเขื่อนทดน้ำ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2520 และมีพระราชดำรัสให้กรมชลประทานก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยด่วน กรมชลประทานได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2520 และแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2522 มีระบบส่งน้ำสายใหญ่ 2 สาย คือ ฝั่งขวายาว 0+630 กม. และฝั่งซ้ายยาว 0+996 กม. สามารถส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรของสมาชิกกลุ่มสหกรณ์น้ำเชิญ ในฤดูฝน 20,000 ไร่ และฤดูแล้ง 15,000 ไร่ ระบบส่งน้ำในส่วนที่ต่อจากคลองส่งน้ำของกรมชลประทานนั้นเดิมเป็นของกรมส่งเสริม สหกรณ์ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ไม่มีงบประมาณในการดำเนินการและมอบให้กรมชลประทานเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2540 เพื่อดำเนินการปรับปรุงระบบชลประทานทั้งโครงการต่อไป
ลักษณะลุ่มน้ำ

ลำน้ำเชิญมีต้นน้ำจากเทือกเขาในบริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวด้าน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ไหลลงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ผ่าน อ.คอนสาน อ.ชุมแพ ไปบรรจบกับลำน้ำพรมที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น แล้วไหลลงอ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น รวมความยาวของลำน้ำตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงขอบอ่างฯอุบลรัตน์ ประมาณ 180 กม. ลุ่มน้ำเชิญ ได้รับฝนจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้น้อย เพราะมีทิวเขาสูงกั้นเป็นแนวแบ่งเขตจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดชัยภูมิ พื้นที่แถบนี้ส่วนใหญ่จึงมักจะขาดแคลนน้ำสำหรับการเพาะปลูกในตอนต้นฤดูอยู่เสมอ บางครั้งช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม เกิดฝนตกหนักเนื่องมาจากพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชั่น จนทำให้เกิดอุทกภัยเป็นเหตุให้การเพาะปลูกบริเวณสองฝั่งลำน้ำได้รับความเสียหาย ปัจจุบันสภาพน้ำในลำน้ำเชิญ ได้รับน้ำเพิ่มเติมจากอ่างเก็บน้ำจุฬาภรณ์ซึ่งสร้างกั้นลำน้ำพรม โดยน้ำที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าจะถูกส่งมาตามท่อส่งน้ำซึ่งวางตัดผ่านสันเขาไปสู่ลำห้วยสาขาไหลลงลำน้ำเชิญตลอดเวลา น้ำจำนวนนี้สามารถนำไปใช้ในการเกษตรได้ตลอดปี
ลักษณะทั่วไปของโครงการ

1. สถานที่ตั้ง
บ.ดอนหัน ม.9 ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พิกัด 48 QSD 836-306 ระวาง 5442-III

2. ระยะเวลาก่อสร้าง
ปี พ.ศ.2520-2522

23 มีนาคม 2562

โบราณสถานธาตุกุดแห่น้อย หมู่ที่ ๒ บ้านนาดอกไม้ ตำบลชุมแพ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น,องค์การบริหารส่วนตำบลชุมแพ,chumphae.go.th

ประวัติ

โบราณสถานธาตุกุดแห่น้อย หมู่ที่ ๒ บ้านนาดอกไม้ ตำบลชุมแพ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ประกอบไปด้วยฐานสิน(พระอุโบสถ) ก่อด้วยอิฐสอดิน ขนาดกว้าง ๙ เมตร ยาว ๑๑ เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ผนังด้านหลังทึบ ส่วนผนังอีก ๓ ด้านเหลือร่องรอยเฉพาะส่วนฐานเท่านั้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสิมโปร่ง คือมีผนังทึบด้านหลัง และเปิดโล่งบริเวณด้านหน้า ภายในสิมมีเสาไม้รองรับโครงสร้างหลังคาที่ทำจากไม้ ด้านในสุดของฐานอาคารเป็นที่ประดิษฐานของธาตุ (เจดีย์) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าธาตุกุดแห่น้อย องค์ธาตุก่ออิฐสอดินถือปูน อยู่ในแผนผัง รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยมีการก่อขยายมุขด้านทิศตะวันตกและทิศใต้เพิ่มเติมในสมัยหลัง ปัจจุบันองค์ธาตุอยู่ในสภาพชำรุดคงเหลือแต่เพียงส่วนฐานเท่านั้นโบราณสถานแห่งนี้กำหนดอายุราวพุทธศตะวรรษที่ ๒๒-๒๔ สมัยวัฒนธรรมล้านช้าง 

23 มีนาคม 2562

เมืองโบราณโนนเมือง,องค์การบริหารส่วนตำบลชุมแพ,chumphae.go.th

ตั้งอยู่บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 4 ตำบลชุมแพ โนนเมืองเป็นเมืองโบราณที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ 2 ชั้น เมืองชั้นในรูปทรงค่อนข้างกลม มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 420 เมตร เมืองชั้นนอกทรงยาวรี มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 600 เมตร หรือมีเนื้อที่ประมาณ 216 ไร่ เป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 12 – 16) ในปี พ.ศ. 2513 หน่วยศิลปากรที่ 7 ได้สำรวจพบเป็นครั้งแรก ต่อมาได้ดำเนินการขุดตรวจ ขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ (อายุประมาณ 2,500-2,000 ปี) ภาชนะดินเผา เครื่องประดับ เครื่องใช้ กระดูกสัตว์ จำนวน 13 หลุม จึงได้ทำหลังคาคลุมไว้ เพื่อแสดงในลักษณะพิพิธภัณฑ์สถานกลางแจ้ง ให้ผู้สนใจได้เข้าชม อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอชุมแพ ไปทางชุมชนนาโพธิ์ (ผ่านโรงเรียนชุมชนชุมแพ) – บ้านโนนเมือง ประมาณ 5 กิโลเมตร หรือไปทางชุมชนพรานราษฎร์-บ้านโนนเมือง ประมาณ 5 กิโลเมตร (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ 7 ขอนแก่น โทรศัพท์ 0-4324-2129, 0-4333-7629 ได้รับงบประมาณปรับปรุงจากปี 2546-2549 ประมาณ 30 ล้านบาท

23 มีนาคม 2562

วัดป่าพระนอนพัฒนาราม,องค์การบริหารส่วนตำบลชุมแพ,chumphae.go.th

จังหวัด: ขอนแก่น

ชื่ออื่น: วัดพระนอนพัฒนาราม, วัดพระนอน

ที่ตั้ง: ม.4 บ้านโนนเมือง ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ

พิกัด: 16.517344 N, 102.089585 E

เขตลุ่มน้ำหลัก: เชิญ

เขตลุ่มน้ำรอง: ห้วยกุดตาไห

เส้นทางเข้าสู่แหล่ง: เมืองโบราณโนนเมืองตั้งอยู่ทางทิศใต้ของตัวอำเภอชุมแพ จากที่ว่าการอำเภอชุมแพ ใช้ถนนประเสริฐวงศ์มุ่งหน้าลงทางทิศใต้ (มุ่งหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองชุมแพ) ประมาณ 600 เมตร พบสี่แยก (ก่อถึงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง) ให้เลี้ยวซ้ายถนนตลาดชัย ประมาณ 290 เมตร พบสามแยกให้เลี้ยวขวาใช้ถนนสำราญวารี ประมาณ 2.6 กิโลเมตร พบสามแยกให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 70 เมตร พบสี่แยกให้เลี้ยวขวา (หากเลี้ยวซ้ายจะเข้าสู่เมืองโบราณโนนเมือง) ไปตามถนนอีกประมาณ 700 เมตร จะพบวัดป่าพระนอนพัฒนารามทางซ้ายมือ

รายละเอียดทางการท่องเที่ยว: พระนอนและเสมาหินทรายภายในวัดป่าพระนอนพัฒนารามได้รับการสักการะและดูแลรักษาเป็นอย่างดีจากชาวบ้านและท้องถิ่น ทั้งยังมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเมืองโบราณโนนเมือง ซึ่งเป็นแหล่งประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของชุมชนชาวบ้านทั้งในและต่างพื้นที่ให้การเคารพสักการะพระนอนเป็นอย่างมาก ชาวบ้านนิยมมาขอพรและบนบาน โดยชาวบ้านเชื่อว่าพระนอนไม่โปรดของคาว ต้องถวายของหวานและผลไม้เท่านั้น โดยเฉพาะลอดช่องและสาคูทุกวันที่ 20 เมษายนของทุกปีมีการจัดงานสรงน้ำพระนอน นอกจากนี้ พื้นที่ภายในวัดยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมงานบุญประเพณีอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม มีการประกวดการละเล่นวัฒนธรรมพื้นบ้าน และใช้ประกอบพิธีทางศาสนาเป็นประจำอย่างต่อเนื่องผู้สนใจสามารถเข้าสักการะและเยี่ยมชมพระนอน รวมถึงเสมาหินทรายภายในวัดป่าพระนอนพัฒนารามได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าเข้าชม

หน่วยงานที่ดูแลรักษา: วัดป่าพระนอนพัฒนาราม, กรมศิลปากร

23 มีนาคม 2562

1

ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 / 1  (4 รายการ)